เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 26 มีนาคม พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสาระพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่าน จ.อุดรธานี จึงนำกำลังดักซุ่มรออยู่บริเวณ กม.ที่ 11 ถนนนิตโย (อุดรธานี –หนองหาน) ต.หนองนาคำ อ.เมือง อุดรธานี
พบรถปิกอัพ นิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ 6279 ร้อยเอ็ด มีชาย 2 คน หญิง 1 คน ตามที่รับรายงานอยู่ในรถ ด้านหลังกระบะบรรทุกสิ่งของมีผ้าใบคลุม ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี และจอดตรงข้ามกับพระธาตุโพนทอง ผู้ชายคนขับได้ลงมาปัสสาวะ ตำรวจจึงขับรถสวนเลนเข้าไปตรวจสอบ คนร้ายรีบขึ้นรถขับพุ่งชนรถตำรวจ แล้วขับหนีเข้าตัวเมืองอุดรธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมขับรถไล่ติดตามประมาณ 2 กม. รถคนร้ายได้กลับรถบริเวณจุดกลับรถ หน้าสำนักงานทรัพยากรน้ำ กม.9 บ.พรสวรรค์ ต.หนองนาคำ แต่เสียหลักชนเสาป้ายจุดกลับรถ ตัวถังด้านขวาพังเสียหาย
จังหวะเดียวกัน ส.ต.อ.ครรชิต สัตโส ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นคนขับรถตำรวจติดตามมา ตัดสินใจยิงยางรถด้านหลังขวา 3 นัด จนยางรั่วทำให้รถขับไปไม่ได้ ผู้ชายที่นั่งข้างคนขับได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนี ตำรวจได้ไล่ติดตามจับกุมได้ และควบคุมตัวทั้ง 3 คน พร้อมของกลางกัญชาแท่ง 500 กก. ยาบ้า 1 แสนเม็ด ยาอี 50 เม็ด พร้อมกับแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ
สอบสวนเบื้องต้นทราบชื่อนายศรายุทธ ประทุมแมน อายุ 34 ปี อยู่เลขที่ 60 ม.16 ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี นายรัชชานนท์ งามสม อายุ 23 ปี อยู่เลขที่ 63/42 ม.7 ต.ไทรน้อย อ.ไทยร้อย จ.นนทบุรี และ น.ส.วรรณวิสา วงศ์นุช อายุ 23 ปี อยู่เลขที่ 200/339 ม.4 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับสารภาพว่า รับจ้างชาวลาวขนกัญชา และยาบ้ามาจาก จ.นครพนม เพื่อไปส่งที่ จ.ปทุมธานี โดยมีนายรัชชานนท์ เป็นคนขับ นายศรายุทธ นั่งข้างคนขับ มีหน้าที่รับโทรศัพท์จากนายทุน โดยออกจาก จ.นครพนม หลังเที่ยงคืนมาสว่างที่ จ.อุดรธานี ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท แบ่งกันคนละ 5 หมื่น ส่วน น.ส.วรรณวิสา เป็นแฟนสาวนายรัชชานนท์ อ้างว่าจะกลับบ้านที่อุทัยธานีจึงขอติดรถมาด้วย
ต่อมา นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจยาเสพติดของกลางและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี กล่าวว่า เป็นนโยบายของศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.อุดรธานี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ให้นโยบายสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน เมื่อตำรวจพบรถเป้าหมาย คนร้ายได้ขับรถพุ่งชนตำรวจ ตำรวจได้ใช้มาตรการเบาไปหาหนัก โดยคนร้ายใช้เส้นทาง สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี จุดหมายปทุมธานี ไม่มีรถเซอร์เวย์เส้นทาง แต่ได้นัดพบกันที่ จ.เลย ซึ่งทำมา 3-4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท
นายสยามกล่าวว่า เป็นไหวพริบของตำรวจที่เห็นความผิดปกติของรถ จึงนำไปสู่การจับกุมครั้งนี้ ซึ่งได้ทั้งของกลางจำนวนมาก พร้อมทั้งตัวผู้ต้องหา ซึ่งก็ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีไหวพริบปฏิภาณ และในการจับกุมไม่มีการสูญเสีย แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ ระดับแม่น้ำโขงได้ลดระดับลง ทำให้การขนลำเลียงยาเสพติดข้ามได้ง่าย อุดรธานีไม่ได้ติดกับแม่น้ำโขง แต่ก็เป็นจังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่าน จึงมีมาตรการตรวจตรา และการปฏิบัติการตั้งจุดตรวจ ซึ่งนโยบายของกระทรวงยุติธรรม จะขยายผลในเรื่องของการยึดทรัพย์ต่อไป