จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ เกิดการลอบยิงฐานปฏิบัติการบ้านไอร์กือเนาะ อ.ศรีบรรพต จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นเหตุให้อาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา ตำแหน่ง พลปืนเล็กกองร้อยทหารพรานที่ 4906 กรมทหารพรานที่ 49 ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อ19 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
ภายหลังอาสาสมัครทหารพรานสกลเสียชีวิต ทางครอบครัวได้แจ้งถึงเจตจำนงค์ของอาสาสมัครทหารพรานสกล ที่ประสงค์บริจาคอวัยวะของตนเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อื่น จึงได้ดำเนินการบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย (โรงพยาบาลสงขลานครินทร์) ได้นำไปปลูกถ่ายเพื่อการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, โรคหัวใจ และโรคดวงตา ที่รอรับการบริจาคอวัยวะได้ถึง 6 รายเป็นที่เรียบร้อย นำมาซึ่งการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วยดังกล่าว
สำหรับการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับการบริจาคอวัยวะของอาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา ทางด้านพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต การเสียชีวิตของอาสาสมัครทหารพรานสกล นับเป็นการสูญเสียบุคคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเท ควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะทหารของชาติ เมื่อเสียชีวิตลงยังเป็นผู้บริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ นับเป็นการสร้างประโยชน์ต่อสังคมด้วยจิตใจของผู้เสียสละและผู้กล้าอย่างแท้จริง เป็นตัวอย่างแก่กำลังพลและเป็นคนดีของสังคม ในการมีหัวใจแห่งการเสียสละและการเป็นผู้ให้ ตามนโยบายของกองทัพบกในเรื่องการส่งเสริมคนดี สนับสนุนให้กำลังพลทำความดี มีจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวม
โดยกองทัพบกได้ ออกประกาศชมเชยและสดุดีให้กับ อาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา ที่เป็นผู้เสียสละที่แท้จริง เป็นทหารของประชาชน อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับกำลังพลของกองทัพบกในการทำความดี โดยประกาศดังกล่าวลงนามโดย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ลง 25 มีนาคม 2564 สำหรับศพของวีรชนทหารกล้า ได้เคลื่อนย้ายกลับสู่ภูมิลำเนา ที่จ.สกลนคร และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเรียบร้อย และมีกำหนดการพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ณ วัดป่าโพนทอง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
ทางพลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ร่วมสดุดีและไว้อาลัย พร้อมกับกำลังพล ครอบครัว และส่วนราชการในพื้นที่ ในนามกองทัพบก ขอสดุดีทหารกล้าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความทุ่มเทเสียสละ เพื่อประเทศชาติและความสงบสุขของประชาชน เกียรติยศและคุณความดีในครั้งนี้จะคงอยู่ในความทรงจำของกองทัพบกตลอดไป
เรียบเรียงข้อมูลโดย CH7HD Social News
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center