19 พ.ค. 64 เวลา 09.00 น. รายงานตั้งแต่วันที่ 15 – 19 พ.ค. 64 เวลา 06.00 น. มีพื้นที่เกิดวาตภัยและน้ำไหลหลาก 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ลำพูน พิจิตร ตาก สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ สุรินทร์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ชัยนาท และอ่างทอง รวม 30 อำเภอ 56 ตำบล 115 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 679 หลัง ส่วนในรอบ 24 ชม. ที่ผ่านมาเกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สุรินทร์ และอำนาจเจริญ รวม 7 อำเภอ 14 ตำบล 34 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 133 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ประกอบกับอิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนัก
โดยในห้วงวันที่ 15 พ.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน (19 พ.ค.64 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และน้ำไหลหลาก 17 จังหวัด รวม 30 อำเภอ 56 ตำบล 115 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 679 หลัง แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ลำพูน พิจิตร และตาก รวม 12 อำเภอ 23 ตำบล 52 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 395 หลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ สุรินทร์ และนครราชสีมา รวม 13 อำเภอ 25 ตำบล 51 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 2535 หลัง
ภาคตะวันออก ได้แก่ ปราจีนบุรี รวม 1 อำเภอ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กาญจนบุรี ชัยนาท และอ่างทอง รวม 4 อำเภอ 7 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 33 หลัง ส่วนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สุรินทร์ และอำนาจเจริญ รวม 7 อำเภอ 14 ตำบล 34 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 133 หลัง ดังนี้ นครนายก เกิดวาตภัยในอำเภอเมือง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
สุรินทร์ เกิดวาตภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าตูม อำเภอโนนนารายณ์ อำเภอสนม และอำเภอรัตนบุรี รวม 12 ตำบล 31 หมู่บ้าน อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในอำเภอ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอปทุมราชวงศา รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่งกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจ และประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784”