21 ก.ย.64 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 21 ก.ย.2564 ได้เห็นชอบโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากครั้งที่ 6 รวม 6 จังหวัด รวม 838 โครงการ กรอบวงเงิน 1,942 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ตามบัญชีท้ายพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 พร้อมทั้งให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค. 2565
ทั้งนี้ 6 จังหวัดที่ได้รับอนุมัติงบประมาณครั้งนี้ ประกอบด้วย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สกลนคร ชัยนาท ราชบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด 834 โครงการนี้ แยกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1)กลุ่มโครงการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว บริการและการค้า 21 โครงการ 2)กลุ่มโครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร 21 โครงการ 3)โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน 13 โครงการ และ 4)โครงการที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน 779 โครงการ
สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับนั้น คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงาน 16,836 คน มีผู้ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 1,356,370 คน ไม่น้อยกว่า 102,723 ครัวเรือน รวมถึงช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า ทักษะและความรู้ในการประกอบอาชีพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหมู่บ้านและชุมชน
ทั้งนี้ เมื่อรวมผลการพิจารณากลั่นกรองโครงการตั้งแต่ครั้งที่ 1-6 ทำให้มีจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว 76 จังหวัด รวม 9,350 โครงการ มีเงินเข้าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 21,847.23 ล้านบาท