ชายต่างชาติเจอข้าราชการไทยหลอกโอนเงิน สูญร่วม 4 ล้าน อ้างจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน ทำสาวไทยในฮอลแลนด์เดือดร้อน ร้องผู้ว่าฯ สกลนคร เจอตอบกลับทำอะไรไม่ได้
วันนี้(30 ม.ค.2566) เมื่อเวลา 10.00 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานายปีเตอร์ อายุ 61 ปี ชาวฮอลแลนด์(เนเธอร์แลนด์) เดินทางมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบจริยธรรมของข้าราชการหญิงรายหนึ่ง หลังจากที่ชายชาวฮอลแลนด์รายนี้ ถูกข้าราชการหญิง ระดับสูงของ จ.สกลนคร หลอกสร้างอนาคตออกอุบายให้ผู้ชายขายบ้านที่ประเทศ ฮอลแลนด์ โอนเงินให้ อ้างจะเอาไปซื้อที่ดินสร้างบ้านไว้ให้อยู่หลังเกษียณ หลอกให้โอนเงิน สุดท้ายมาดูที่ไทยกลับไม่พบบ้านดังกล่าวจริง สร้างผลกระทบต่อหญิงไทยที่อาศัยอยู่เนเธอร์แลนด์
นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า นายปีเตอร์ รู้จักกับข้าราชการสาวรายนี้ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ก่อนจะถูกหลอกอ้างว่าตัวเองเป็นข้าราชการไทย เชื่อถือได้ ให้โอนเงินมาจากนั้นจะไปซื้อที่ดินสร้างบ้านแล้วมาใช้ชีวิตวัยเกษียณด้วยกันที่ประเทศไทย ซึ่งนายปีเตอร์ก็โอนให้ ขายบ้านที่เนเธอร์แลนด์ ส่งเงินให้สาวรายนี้จนเงินหมดตัว จากนั้นสาวรายนี้กลับมีท่าทีเปลี่ยนไป คำพูดที่ใช้เหมือนเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรื่องนี้สร้างความเดือดร้อน และถูกพูดถึงที่ต่างประเทศ จนมีคนติดต่อมาขอให้ช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้กลายเป็นข่าวโด่งดังในเนเธอร์แลนด์
กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับข้าราชการสาวรายนี้ อ้างว่าคุยกันจริงแต่ขอเงิน 20,000 บาท ปีเตอร์กลับโอนมาให้ 2,000 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริง นายปีเตอร์มีหลักฐานการโอนเงินหลายครั้ง บางครั้งโอนนับแสนบาท ซึ่งสาวรายนี้มีตำแหน่งข้าราชการระดับสูง เมื่อประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กลับบอกว่าไม่มีอำนาจจะทำอะไรได้ ผู้ว่าฯ มองเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อมองอีกมุม เรื่องนี้กระทบชื่อเสียงของไทย แม้แต่ผู้ว่าฯ ยังทำอะไรไม่ได้ วันนี้จึงมาพึ่งพาส่วนกลางคือกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยตรวจสอบ และฝากไปถึงสาวรายนี้ว่าให้เวลา 3 วัน หากไม่เคลียร์เรื่องนี้ให้จบ จะออกมาแฉรายละเอียดทั้งหมด
ด้านนายกฤษฏา โลหิตดี หรือทนายโนบิตะ กล่าวเสริมว่า โดยหลักการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ถือเป็นผู้บังคับบัญชา สามารถเรียกมาพูดคุยตรวจสอบได้ ต้องการอาศัยช่องทางส่วนนี้มาช่วยดูแลตรวจสอบทั้งวินัยและอาญา เชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยจะช่วยส่วนนี้ ที่ผู้ว่าฯ บอกไม่มีอำนาจนั้นเป็นไปไม่ได้
ขณะที่นายปีเตอร์ ผู้เสียหาย เปิดใจว่า รู้จักกับสาวรายนี้ช่วงพฤษภาคม 2560 และเคยเจอกันประมาณ 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือปี 2562 ก็เลิกกับแฟน ขายบ้าน โอนเงินให้ จนทะเลาะกับครอบครัว เดือดร้อน ตอนนี้สูญเสียทุกสิ่ง รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว
ขณะเดียวกัน คุณรีญ่า อดีตแฟนสาวชาวไทยของนายปีเตอร์ ซึ่งเดินทางมาด้วยกัน เล่าว่า คบหากับนายปีเตอร์มา 6-7 ปี สร้างบ้านด้วยกัน หมั้นกัน เตรียมจะแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกัน แต่หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามา ก็คุยกันและตกลงจากกันด้วยดี แต่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ส่วนผู้หญิงคนดังกล่าว ก็ทราบดีว่าปีเตอร์มีแฟนเป็นคนไทยอยู่แล้ว ตอนนั้นปีเตอร์มาที่ไทย 3-4 วัน ก็พาไปเปิดบัญชีธนาคารตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อกลับมาเยเธอร์แลนด์ก็คุยกันกับทั้งปีเตอร์และสาวข้าราชการรายนี้ สุดท้ายจึงตัดสินใจเลิกกับปีเตอร์โดยดี
อดีตแฟนสาวชาวไทย กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงปลายปีก่อน ปีเตอร์ ติดต่อมาคุยด้วยเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อทราบเรื่องก็ตกใจ เพราะปีเตอร์ส่งเงินให้จำนวนมาก เฉลี่ยเดือนละเป็นแสน พี่สาวปีเตอร์ก็มาขอร้องให้ช่วย เพราะเสียเงินไปเช่นกัน รวมทั้งหมด 4 ล้านกว่าบาท เป็นเงินในบัญชีของตัวเองประมาณ 3 ล้านบาท และโอนเข้าบัญชีของสาวข้าราชการรายนี้โดยตรงรวมประมาณ 1 ล้านบาท แต่พอลงพื้นที่มาดูบ้านด้วยตัวเอง ปีเตอร์ถึงขั้นร้องไห้ เพราะไม่มีบ้านอยู่จริง จึงฝากถึงข้าราชการรายนี้ ถ้าไม่รักจริง ก็คืนเงินมา อย่าทำลายชีวิตคนอื่น