นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ. ที่มีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน วันที่ 19 มีนาคม สำนักงานก.ค.ศ.จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาร่างหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยาฐานะ ในสายบริหารการศึกษา ทั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รองผู้อำนวยการสพท. ศึกษานิเทศก์ ซึ่งจะทำให้มีหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ครบ ทั้ง 4 สาย คือ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารการศึกษา เมื่ออนุมัติครบแล้ว จะประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคมตามกำหนด โดยผู้ที่มีคุณสมบัติครบสามารถยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะได้วันที่ 1 ตุลาคม 2564
นายประวิต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ จะเริ่มเปิดให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้ที่เข้ามาดำเนินการจัดทำระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงพัฒนางาน หรือ Performance Appraisal ( PA ) รวมถึงจะมีแผนสื่อสารทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งนี้ระหว่างวันที่1 พฤษภาคม ถึง 1 ตุลาคม จะมีการทดลองใช้หลักเกณฑ์นี้ในโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรม 3 จังหวัด คือ จ.สตูล ศรีษะเกษ และ จ.สกลนคร รวม 177 โรงเรียน ในสายผู้สอน และสายบริหารสถานศึกษา เพื่อจะดูกระบวนการว่าจะต้องมีการปรับอะไร หรือไม่อย่างไร เปิดให้ยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะระบบใหม่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ วันที่ 1 ตุลาคม
“ส่วนกลุ่มที่มีสิทธิขอมีและเลื่อนวิทยาฐานะตามหลักเกณฑ์เดิม จะเลือกยื่นขอตามหลักเกณฑ์ใหม่ หรือหลักเกณฑ์เดิมก็ได้ แต่หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2656 จะต้องยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด ยืนยันว่า การออกหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะใหม่นี้ ไม่มีใครได้รับผลกระทบ ทุกคนยังได้สิทธิเท่าเดิมทุกอย่าง ทั้งนี้แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการศธ. ก็ไม่กระทบกับการทำงาน เพราะงานของก.ค.ศ. วางไว้เป็นขั้นตอน อยู่ในแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เพราะฉะนั้น หากรัฐมนตรีว่าการศธ. คนใหม่มาก็สามารถสานงานต่อได้เลย”นายประวิต กล่าว
เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณากรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 1,933 ราย ยื่นขอทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ คาดว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะประกาศผลการทบทวนได้ สาเหตุที่ใช้เวลาพิจารณาค่อนข้างนานเพราะมีรายละเอียดมาก ตนเองก็ไม่สามารถไปกดดันคณะอนุกรรมการฯ ได้
