ภูมิภาค
ปีนี้ต้องรอด! อธิบดีกรมน้ำลุยช่วยเหลือภัยแล้ง จ.สกลนคร
วันพุธ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 19.50 น.
คลิกที่นี่
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยประชาชน ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานภายใต้กำกับของกระทรวงฯ เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างเร่งด่วน สั่งการให้ นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วยนายมงคล หลักเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันวิกฤติน้ำ นายชูชาติ นารอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาภาวะน้ำแล้ง ในหนองปลาดุก พื้นที่บ้านดอนจำปา ต.สามัคคีพัฒนา อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เพื่อสูบน้ำทอยจากโครงการอ่างเก็บน้ำหนองเรือ เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนผลิตประปาหมู่บ้านเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำดังกล่าวมีประชาชนได้รับประโยชน์ 5 หมู่บ้าน 1,046 ครัวเรือน ประชากรจำนวน 4,064 คน โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งปลูกกว่า 20,000 ไร่
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่นอกเขตชลประทานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การจัดหาน้ำเพื่อการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพในช่วงฤดูแล้งของทุกปี จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำดำเนินมาตรการรองรับสถานการณ์การขาดแคลนน้ำ ในฤดูแล้งปี 2563/2564 ผ่านการจัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบ ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ พร้อมเติมน้ำให้แหล่งน้ำในพื้นที่การเกษตร ในการนี้ ยังได้เปิดโครงการ การศึกษา ประเมินศักยภาพ และพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่กรมทรัพยากรน้ำได้จัดตั้งขึ้น จากการคัดเลือกแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 80 แห่ง มาทำการสำรวจเพื่อประเมินความจุเก็บกักที่แท้จริง พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณน้ำทุนที่มีอยู่ในแต่ละช่วงเวลา
นายมงคล หลักเมือง ผอ.ศูนย์ป้องกันวิกฤติ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ ได้ศึกษาประเมินศักยภาพ และพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อการพัฒนาแนวความคิด นำบัญชีน้ำมาประยุกต์ใช้กับแหล่งน้ำระดับตำบล ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ สามารถประเมินปริมาณน้ำที่มีในปัจจุบัน และปริมาณที่คาดว่าจะขาดแคลนในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ทำให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานภาครัฐรวดเร็วและมีการแก้ปัญหาน้ำที่ดียิ่งขึ้นไป ซึ่งปัจจุบัน จากการสำรวจแหล่งกักเก็บน้ำขนาดกลางของกรมทรัพยากรน้ำ ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พบว่ามีปริมาณน้ำที่สามารถสนับสนุนน้ำต้นทุน เพื่อช่วยเหลือภาวะภัยแล้งในพื้นที่ได้อีกประมาณ 30.3 ล้านลูกบาศก์เมตร และเตรียมน้ำต้นทุน 30.3 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมเสริมพลังเครือข่ายประชาชนแก้ปัญหาภาวะน้ำแล้ง
คลิกที่นี่