“กางเกงสติ” ใครเคยได้ยินชื่อ หรือรู้จักกันไหม? ถ้ายังไม่เคย เดี๋ยวจันจะเล่าให้ฟัง…
เมื่อวานนี้(22 ก.ค. 64) หลังจากที่จันได้ทำภารกิจส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและเครื่อง high flow รวม 7 เครื่อง ให้กับ รพ.ศูนย์สกลนคร เพื่อนำไปใช้ในห้องไอซียูทีกำลังจะจัดทำเพิ่ม รองรับผู้ป่วยโควิดอาการหนักแล้ว ซึ่งจริงๆจะเดินทางกลับ กทม. กันเลย เพราะต้องทำเวลาไม่ให้ดึกมาก อย่างที่รู้ๆกันว่า กทม. มีช่วงเวลาเคอร์ฟิวอยู่ (แต่จันก็ทำเรื่องขออนุญาตเดินทางและเกินเวลาแล้วนะคะ) แต่ก่อนหน้านี้ พี่ปิ๊ก ปวีณา หงสกุล เคยพูดให้ฟังว่าที่สกลนคร ถ้ามาแล้วให้เข้าไปกราบพระที่วัดดอยธรรมเจดีย์ด้วยนะ วันที่ 21 ก.ค. ที่เราเดินทางมาถึงสกลนคร เราก็แวะไปมาแล้วค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าวัดเปิดให้เข้าหรือเปล่าเพราะสถนการณ์โควิดช่วงนี้ก็ไม่ค่อยดี เลยทำได้แค่ขับรถไปส่องๆอยู่ข้างรั้ววัด ที่มีป้ายคำสอนติดอยู่ด้วยทั้งรั้ว คำสอนที่ว่าก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั่นเอง
เราเลยคุยกันว่าไว้วันหน้าค่อยมาใหม่ กระทั่งวันที่ 22 ก.ค. หลังเสร็จภารกิจ ว่าจะกลับกันอยู่แล้ว แต่ทางคุณหมอที่มารับเราก็เลยบอกว่า แจ้งกับทางพระอาจารย์เจษฎา (พระอาจารย์แว่น) เจ้าอาวาสวัดดอยธรรมเจดีย์ องค์ปัจจุบันให้แล้วว่าพวกเราอยากเข้าไปกราบท่านที่วัด ท่านบอกว่าให้เข้าไปได้ พวกเราเลยได้มีโอกาสเข้าไปในที่สุด สัมผัสแรกที่ผ่านเข้าไปในเขตของวัดกับถนนเส้นยาวกว่าเข้าไปถึงตัววัด รู้สึกเลยว่าที่นี่ร่มรื่น ร่มเย็นมาก ตัววัดเหมือนจะอยู่บนเขา วัดถึงได้ชื่อว่าวัดดอย เรานั่งรอท่านเจ้าอาวาสอยู่สักพัก เพราะท่านออกไปช่วยเหลือญาติโยมที่ รพ.สนาม ไม่นานพระอาจารย์ก็เข้ามา และเราก็ได้กราบพระอาจารย์แว่นกันค่ะ
เราแนะนำตัวกันสั้นๆ ว่าพวกเราเป็นใคร มาทำอะไร พระอาจารย์ก็ดูสนอกสนใจไม่น้อย เพราะท่านไม่รู้จักเพจอีจัน แน่นอนค่ะว่าคำถามแรกที่พระอาจารย์ถามเราเลยคือ “ทำไมถึงตั้งชื่อว่าอีจัน” ถามไถ่ให้รู้จักหน้าค่าตากันไม่นาน พระอาจารย์ก็ถามเราถึงเรื่องการช่วยเหลือสังคมที่ทำกันอยู่นี้ว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็ตอบท่านไปว่าทั้งหนักแล้วก็ทั้งเหนื่อยอยู่พอตัว แต่ก็จะยังคงทำกันต่อไปและพยายามช่วยเหลือคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำกันได้ หลังจบคำบอกเล่าของเรา พระอาจารย์ก็เริ่มสนทนาธรรมให้ฟัง…
“ทำดีมันดีแล้ว ทำกับคนอื่นมาก็เยอะแล้ว ได้ทำดีกับตัวเองบ้างไหม? นั่งสมาธิทำใจให้สงบทำบ้างไหม? สวดมนต์ไหว้พระ เอาแค่วันพระทำได้ไหม? ทำงานกับคนเจอกับคนเยอะ คนก็หมายถึงอารมณ์ ความรู้สึก ต้องทำงานรองรับอารมณ์คน เป็นคนรับอยู่อย่างเดียวไม่ดี ต้องฝึกสมาธิให้ตัวเองด้วย ให้จิตใจสงบ รู้ตัวอยู่เสมอ มีสติอยู่กับทุกสิ่งที่ทำ ตอนนี้ความดีที่ทำชนะใจคนอื่นแล้ว แล้วความดีที่จะชนะใจตัวเองล่ะ อันนี้ที่ยากยิ่งกว่า ได้ทำมันหรือยัง” คำสอนของ พระอาจารย์เจษฎา (พระอาจารย์แว่น)
หลังจบคำพระอาจารย์ เราได้แต่ฉุกคิดกันขึ้นมา ว่าก็จริงอย่างที่พระอาจารย์ว่า ตอนนี้บ้านเรากำลังเผชิญโรคร้าย คนออกมานอนตายอยู่กลางถนน ตื่นมาแต่ละวันก็เจอแต่เรื่องราวที่หดหู่ บางทีมันก็ทำให้จิตใจเราห่อเหี่ยวลงไปด้วยเหมือนกัน แล้วพระอาจารย์ก็ถามว่าที่ออฟฟิศเรามีคนกี่คน เราเลยบอกจำนวนไปคร่าวๆ พระอาจารย์ก็ถามย้ำ “ถามได้ไหม นั่งสมาธิบ้าง สวดมนต์ทุกวันพระ ลองทำนะ ถ้ารับปากว่าจะทำจะเอากางเกงให้ไปใส่นั่งสมาธิ” ตอนแรกเราก็งงๆกันค่ะ ว่าพระอาจารย์เปรียบเปรยถึงกางเกงเฉยๆหรือว่าหมายถึงกางเกงที่จะให้ใส่จริงๆ แล้วพระอาจารย์ก็ลุกจากศาลา ไปหยิบกางเกงขายาวสีดำมาตามจำนวนคนที่ออฟฟิศเรามาให้ แล้วหยิบให้พวกเราคนละตัว เท่านั้นแหละ เราถึงได้เข้าใจว่ามีกางเกงให้ใส่จริงๆ จนพี่จันพูดขึ้นมาว่า “นี่มันกางเกงสติชัดๆ” และนี่ก็เป็นที่มาของกางเกงสตินั่นเองค่ะ บอกก่อนนะคะว่าที่นี่ผู้ปฏิบัติธรรมเขาจะนุ่งดำห่มขาวกัน ก็คือส่วนล่างใส่สีดำ ส่วนบนใส่สีขาว เพราะต้องนั่งกับพื้นดินส่วนล่างจะได้ไม่เลอะ
ก่อนกราบลาพระอาจารย์ ท่านได้ฝากเรามาด้วย ว่าใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว ถ้าเราได้ช่วยบอกบุญไปถึงลูกเพจเราในการทำดี ไม่ว่าจะแบบไหน หรือนั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ แค่นี้ก็ดีแล้ว ดีกับตัวเอง แค่สัก 1% ที่ลูกเพจเลือกจะทำ ก็เหมือนได้ชวนคนทำนุบำรุงศาสนาแล้ว และอีกหนึ่งข้อสำคัญที่พระอาจารย์พูดย้ำกับเราเลยก็คือ “ลองไปคิดหาคำสร้อยต่อท้ายชื่อเพจดูนะ เอาให้เป็นคำเพราะได้อีกนิดไหม อีจันคะ อีจันครับ” นั่นทำให้พวกเราได้แต่ยิ้มกันด้วยความแอบขำ หรือจันจะเติมคำดี เป็นอีจันจ้า เพราะขึ้นไหม?
ยังมีพรจากพระอาจารย์แว่น ถึงลูกเพจทุกคนด้วยนะคะ พระอาจารย์ท่านให้พรว่า อย่าติดโควิด ซึ่งสิ่งที่จำช่วยได้เป็นสำคัญก็คือการมีสติ ไม่ประมาท ไปไหน ทำอะไรก็ต้อมีสติคอยระวังอยู่เสมอ เพราะโรคนี้เรามองไม่เห็น มันเล็กมาก อาจจะมาติดได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นมีสติ ไม่ประมาทกับโรค นี่แหละค่ะพรที่พระอาจารย์ให้มา สาธุ
*** วัดดอยธรรมเจดีย์ เดิมมี พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร หรือ หลวงปู่แบน ธนากโร เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งหลวงปู่แบนเป็นพระเถระสายพระป่าในประเทศไทย ผู้เป็นสหธรรมิกผู้ใกล้ชิดกับพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) และได้รับการวางใจจากหลวงตามหาบัว ให้เป็นเสาหลักของคณะพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น เป็นที่เคารพของพระบรมวงศานุวงศ์ ท่านยังสร้างสาธารณะกุศลอีกมากมาย เช่น สร้างโรงพยาบาลพระอาจารย์แบน ธนากโร ที่ อ.ภูพาน จ.สกลนคร กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2563 ท่านได้ละสังขารอย่างสงบ ณ กุฏิวัดดอยธรรมเจดีย์ สิริอายุ 91 ปี 72 พรรษา