ห้องข่าวภาคเที่ยง – สพม.จ.บึงกาฬ เริ่มสอบปากคำผู้อำนวยการที่ถูกกล่าวอ้าง นุ่งผ้าขนหนูแอบดูครูเวรอาบน้ำแล้ววันนี้ คาด 2 สัปดาห์จะทราบผล ด้านตำรวจเร่งหาหลักฐานเอาผิด แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังไม่ชัดว่าคนในภาพคือใคร
เป็นคลิปขณะนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ได้เขียนป้ายข้อความ และรวมตัวกันหน้าเสาธง ประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน หลังทราบข่าวว่าได้ก่อเหตุแอบย่องเข้าไปดูครูผู้หญิงของโรงเรียนขณะอาบน้ำในช่วงกลางคืน จนเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเซียล
หลังเกิดเหตุ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานบึงกาฬ กระทรวงศึกษาธิการต้นสังกัด สั่งตั้งกรรมการสอบโดยด่วน พร้อมสั่งย้ายให้ผู้อำนวยนวยการโรงเรียนมาประจำที่ สพม.บึงกาฬ โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ส่วนครูผู้เสียหายตอนนี้ยังขอสอนอยู่ ส่วนครูสาวอีกคนที่เป็นคนแจ้งครูเวรให้มาดูหลังห้องน้ำ ขอย้ายไปสอนที่บ้านเกิดในจังหวัดสกลนคร เพื่อให้ง่ายต่อการสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นคณะกรรมการ สพม.บึงกาฬ จะเริ่มสอบปากคำผู้อำนวยการที่ถูกกล่าวหาในวันนี้ คาดว่าจะทราบผลข้อเท็จจริงภายใน 2 สัปดาห์
ขณะที่ตำรวจ สภ.พรเจริญ ก็เร่งหาพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีอย่างเต็มที่ แต่ล่าสุดยังไม่สามารถยืนยันว่าชายตามภาพวงจรปิดเป็นผู้อำนวยการหรือไม่ เพราะเป็นช่วงเวลากลางคืน ภาพไม่ชัดมากนัก จะให้ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบต่อไป
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พฤติกรรมแอบดูครูสาวอาบน้ำในห้องน้ำ ซึ่งบ้านพัก ผอ. และครูสาวอยู่ห่างกันประมาณ 4 เมตร หลังจากทำงานเลิกดึกประมาณเที่ยงคืน จึงเข้าไปอาบน้ำ ขณะอาบน้ำได้ยินเสียงดังผิดปกติอยู่ภายนอก จึงไลน์ขึ้นไปบอกครูสาวอีกคน บอกให้ครูผู้ชายที่มาเข้าเวร ให้มาดูหลังห้องน้ำให้ด้วย กลัวมีคนร้ายเข้ามาในบ้าน เมื่อครูเวรมาถึงพบกับชายคนหนึ่งที่นุ่งแต่ผ้าเช็ดตัว กำลังเกาะขอบกำแพงห้องน้ำชะเง้อดู จึงตะโกนบอกครูสาว ชายคนดังกล่าวได้ยินเสียงก็ตกใจ จึงวิ่งหนีไปทางบ้านพัก ผอ.เข้าทางประตูข้างบ้าน แต่ขณะวิ่งไปผู้ขนหนูหลุด จึงคิดว่าชายดังกล่าวเป็น ผอ.
พอเปิดเรียนเช้าวันที่ 21 มกราคม จึงทำหนังสือขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดดูกล้องวงจรปิด ผู้อำนวยการโรงเรียน ตอบไปว่า ไม่ต้องหรอก เพราะคนที่ไปแอบดูก็คือ ผอ.เอง และกล่าวขอโทษไม่ให้เอาเรื่องไปเปิดเผย แต่ 2 ครูเวรไม่ยอม จึงนำความเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบชายคนหนึ่งนุ่งผ้าขนหนู เดินไปทางห้องครูเวรจริง จนมีการลุกฮือของนักเรียนดังกล่าว