“ศูนย์ฯอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร” เปิดตัวไก่ดำภูพาน 4 “ไก่หวายดำ” เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนต่อโรค ให้ไข่ดก ตอบโจทย์ความต้องการเกษตรกรคนรุ่นใหม่ ปชช.สนใจขอรับพันธ์ุไปเลี้ยงได้ฟรีไม่เสียเงิน
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 นายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้างานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า เราใช้เวลา 3 ปี ในการพัฒนาพันธุ์ระหว่างไก่ดำภูพาน 1-2 และ 3 เป็นไก่ดำภูพาน 4 คัดเลือกลักษณะสีขน จนได้ขนสีหวายดำหรือน้ำตาลอ่อนแซมด้วยหวายดำ แต่ยังคงลักษณะที่โดดเด่นของไก่ดำภูพาน คือ หนังดำ เนื้อดำ กระดูกดำ เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนทานต่อโรคระบาด ของเหลือบริโภคในครัวเรือนไก่สามารถกินได้หมด และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มเติมลักษณะพิเศษมากขึ้นอีก คือ ให้ไข่ดกมากขึ้นกว่าเดิม โดยให้ไข่ได้ปีละ 125-130 ฟอง เกษตรกรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไก่รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้เลย เลี้ยง 4-5 ตัว ก็มีไข่ไว้บริโภคได้ตลอด นอกจากนี้ยังให้ความเพลิดเพลินจากลักษณะสีขนที่สวยงามอีกต่างหาก
ทั้งนี้ในงานครบรอบ 39 ปีศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร ระหว่างวันที่ 25-26 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้จัดการฝึกอบรมออนไลน์ 3 หลักสูตร ได้แก่ กระต่ายดำภูพาน ไก่ดำภูพาน และโคเนื้อภูพาน ผ่านระบบออนไลน์ (ZOOM) หลักสูตรละ 93 คน ซึ่งเกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าอบรมเป็นจำนวนมาก มีการลงทะเบียนจองเต็มทุกที่นั่ง ภายในเวลาไม่ถึง 40 นาที และเมื่ออบรมเสร็จจะได้รับใบประกาศนียบัตร และพันธุ์สัตว์จัดส่งตรงถึงที่บ้านอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมไก่ดำภูพานรุ่นที่ 4 ได้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ หรือจะขอรับพันธุ์ไก่ไปเลี้ยงต่อก็ได้ มีเงื่อนไขเดียวคือต้องมีใจรัก รักในการเลี้ยงไก่ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ส่งมอบเผยแพร่ต่อแก่ผู้อื่นที่สนใจ เพียงนำบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนใบเดียวก็มอบให้ฟรีๆ เท่านี้ก็รับไก่ไปเลี้ยงได้เลย
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ดำเนินงานตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และค้นหารูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมในลักษณะ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2525 โดยสำนักงาน กปร.ได้สนองพระราชดำริให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อติดตามการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการสามารถพัฒนาไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในการสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชน และเป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ปัจจุบันดำเนินงานมาครบรอบ 39 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 25 พ.ย.64 ได้มีการจัดงานในลักษณะ Virtual Exhibition นิทรรศการเสมือนจริง โดยมี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานพิธีเปิดงานในชื่องาน “39 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน” ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร โดยความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯและหน่วยงานร่วมร่วมกันจัดขึ้น
“ทุกวันนี้เกษตรกรเป็นคนยุคใหม่ มีความต้องการสิ่งใหม่ๆที่แปลกไปจากเดิม มีความเป็น Passion สูงมาก เพราะฉะนั้นการทำงานในโครงการพระราชดำรินั้น ก็จะต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ให้สามารถตอบโจทย์คนยุคใหม่ให้ได้มากขึ้น ถ้าเรายังไม่ปรับตัวก็คงจะเข้ากับยุคสมัยของผู้คนในปัจจุบันไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำงานให้เข้ากับเกษตรกรยุคสมัยใหม่” นายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ กล่าว